วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แนะนำการดูเทนนิส

แนะนำการดูเทนนิส

1. การเล่น
ผู้เล่นจะต้องอยู่คนละข้างของตาข่าย ผู้เล่นที่ส่งลูกก่อนจะเป็นฝ่ายเสิร์ฟ อีกฝ่ายหนึ่งจะเป็นฝ่ายรับ สลับกันไป
2. การเลือกข้าง
ใช้วิธีเสี่ยง ผู้ชนะมีสิทธิ์ในการเลือกข้าง หรือเสิร์ฟ
3. การเสิร์ฟ การยืน
จะต้องให้เท้าทั้งสองข้างอยู่นอกสนามเส้นหลัง ให้โยนลูกขึ้นไปในอากาศ แล้วใช้ไม้ตีก่อนที่ลูกจะตกถึงพื้น ผู้เล่นที่มีแขนเดียวให้ใช้ไม้เทนนิสช่วยโยนได้ ให้เริ่มเสิร์ฟด้วยด้านขวาก่อน แล้วจึงสลับกันไป ลูกที่เสิร์ฟจะต้องข้ามตาข่ายไปสัมผัสกับพื้นภายในคอร์ตเสิร์ฟที่อยู่ทแยงกันเมื่อเสิร์ฟลูกที่ 1 เสีย จะต้องรีบเสิร์ฟลูกที่ 2 ทันที การเล่นเมื่อจบเกมจะต้องเปลี่ยนการเสิร์ฟสลับกันไป
4. การรับ
ผู้รับพร้อมที่จะรับจึงเสิร์ฟได้ ถ้าหากว่าผู้รับพยายามที่จะรับลูกต้องถือว่าผู้รับนั้นพร้อมแล้ว
5. การขานคำว่า " เล็ต "
หมายความว่า เมื่อขานขึ้นเฉพาะการเสิร์ฟลูกที่ 1 ก็ให้เสิร์ฟลูกนั้นใหม่ เมื่อขานขึ้นกรณีอื่นๆ ให้เล่นแต้มนั้นใหม่ การเสิร์ฟที่ขาน " เล็ต " ไม่มีฝ่ายใดได้แต้ม
6. การเปลี่ยนข้าง
จะต้องเปลี่ยนข้างเมื่อจบเกมที่ 1 และเกมที่ 3 และทุกเกมคี่ของแต่ละเซต นอกจากจำนวนเกมในเซตนั้นเป็นเลขคู่ก็จะต้องเปลี่ยนข้างเมื่อจบเกมที่ 1 ในเซตถัดไป
7. การเสิร์ฟได้แต้ม
คือ การเสิร์ฟถูกต้องหรือถูกตัวผู้รับก่อนที่ลูกจะตกถึงพื้น ผู้รับจะได้แต้มเมื่อผู้ เสิร์ฟเสีย 2 ลูกติดต่อกันหรือผู้เสิร์ฟทำเสียเอง
8. การขัดขวางคู่ต่อสู้
หากผู้เล่นคนใดขัดขวางคู่ต่อสู้ในการตีลูกโดยจงใจ จะเป็นฝ่ายเสียแต้ม
9. ลูกที่ตีไปสัมผัสพื้นสนามอย่างถูกต้องแล้วไปตกกับอุปกรณ์ถาวร
ผู้ตีจะได้แต้ม แต่ถ้าผู้ตี ตีลูกไปถูกอุปกรณ์แล้วสัมผัสพื้นสนามผู้รับจะได้แต้ม
10. การนับแต้มในแต่ละเกม
ผู้เล่นคนใดได้แต้มครั้งแรกให้ขานว่า "15 " เมื่อเขาได้แต้มครั้งที่ 2 ให้ขานว่า " 30 " เมื่อเขาได้แต้มครั้งที่ 3 ให้ขานว่า " 40 " เท่ากันให้ขานว่า " ดิวซ ์" ถ้าเขาได้แต้มอีกต่อไปเป็นครั้งที่ 2 เขาก็จะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น ถ้าคู่ต่อสู้ของเขาทำแต้มต่อจากแต้มได้เปรียบก็จะขานว่า " ดิวซ ์" อีก ต่อจากนั้นถ้าใครทำแต้มต่อจาก " ดิวซ ์ " ติดต่อกัน 2 แต้มก็จะเป็นผู้ฝ่ายชนะ
11. การนับแต้มในแต่ละเซต
ผู้เล่นที่ชนะ 6 เกมแรก จะถือว่าเป็นผู้ชนะในเกมนั้น แต่จะต้องชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกันอย่างน้อย 2 เกมด้วยและถ้าจำเป็นก็จะต้องเล่นต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะชนะติดต่อกัน 2 เกม
12. การนับแต้มระบบไทเบรก
จะใช้ต่อเมื่อได้แต้มเป็น 6 เกม เท่ากัน ยกเว้นเซตที่ 3 และเซตที่ 5 ของการแข่งขันที่มี 3 หรือ 5 เซต แต้มก่อนจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น แต่จะต้องชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกันอย่างน้อย 2 แต้มด้วย ถ้าแต้มเป็น 6 เท่ากัน จะต้องต่อเกมออกไปจนกว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดชนะ 2 แต้มติดต่อกันตลอดไทเบรก จะเป็นฝ่ายชนะ
13. จำนวนเซตที่ใช้แข่งขัน
การแข่งขันประเภทคู่ อย่างมากมี 5 เซต ถ้ามีสตรีร่วมแข่งขันด้วยจะมี 3 เซต
14.เวลาสำหรับการแข่งขันและหยุดพัก
เวลาสำหรับการเปลี่ยนข้างไม่เกิน 1 นาที 30 วินาที แต่ต่อได้ไม่เกิน 25 วินาที เวลาพักหลังได้รับบาดเจ็บ ระหว่าง 3 - 5 นาที เวลาพัก เมื่อ หมดเซตที่ 3 หรือในการแข่งขันที่มีสตรีด้วยเมื่อหมดเซตที่ 2 พักได้ไม่เกิน 10 นาที
    เกมไทร์เบรค คือ การเล่นเกมสุดท้ายอันเป็นเกมตัดสินนั่นเอง ในเกมนี้ผู้เล่นที่ทำคะแนนถึง 7 พ้อยท์ เป็นคนแรกจะชนะเกมเซ็ท ยกเว้นที่ในกรณีทั้งสองฝ่ายทำคะแนนได้ 6 พ้อยท์เท่าซึ่งเกมไทเบรคจะต้องดำเนินต่อไปจนกระทั่งผู้เล่นคนใดคนหนึ่งสามารถทำคะแนนนำอีกฝ่ายหนึ่งไปได้ 2 พ้อยท์รวมเช่น 9-7,16-14 ฯลฯ สำหรับในบางประเทศจะใช้เกมไทเบรคชนิด 5 พ้อยท์ เป็นเกณฑ์ตัดสิน อเมริกาเป็นประเทศหนึ่งที่กำหนดให้มีไทเบรคประเภทนี้ และได้ใช้ระบบนับแต้มที่เรียกว่า "No Ad Scoring" ซึ่งเป็นวิธีการนับเลขแบบก้าวหน้าเรียงขึ้นไปตามลำดับคือ 1,2,3,4 แทนที่จะเป็น 15,30,40 คนที่สามารถทำคะแนนได้ 4 แต้มคนแรกจะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น
    เป็นธรรมเนียมที่ถือปฏิบัติกันมาในการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ที่ผู้เล่นทั้งในประเภทเดี่ยวและประเภทคู่จะเปลี่ยนข้างกันในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งจะทำกันหลังจากการแข่งขันในเกมที่ 1 ที่ 3 ที่ 5 และต่ไปเรื่อย ๆ เกมเว้นเกม การแข่งขันแต่ละเซ็ทจะแยกออกมาอย่างเด็ดขาด ดังนั้นถ้าหากว่าเซ็ทหนึ่งสิ้นสุดลงด้วยคะแนน 6-3 ก็จะมีการเปลี่ยนข้างกันในทันที แล้วจะมีการเปลี่ยนข้างกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อเกมแรกของเซ็ท ต่อมาสิ้นสุดลง สำหรับในกรณีที่เป็นการแข่งขันไทเบรคผู้เล่นจะเปลี่ยนข้างกันในทุก ๆ 6 พ้อยท์ เมื่อครบไทเบรคหนึ่งครั้งก็เท่ากับจบกันไปหนึ่งเกม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น